หลนน้ำกะทิปูนาดอง
หน้าฝนอย่างนี้ ที่กลางนา ปูปลาออกมาเพ่นพ่านเยอะมาก วันนี้เย็นไปตลาดนัดกับแม่ มีเเม่ค้าเอาปูมาขายเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นปูนาย่าง ปูนาดองเค็ม ทั้งตัวใหญ่เเละตัวเล็ก บอกก่อนว่าเมื่อหน้าฝนปีที่แล้ว เเม่เคยทำให้กินเมนูนึง ก็คือหลนน้ำกะทิปูนาดอง ตอนเเรกไม่กล้ากินเพราะรู้สึกไม่ชอบกลิ่น เเต่เเม่บอกว่าลองสิ อร่อย เมนูนี้ตาชอบทำให้กินตอนเด็กๆ พอลองกินก็แปลกๆ ในตอนเเรก เเต่พอกินไปหลายคำก็อร่อยดี คลุกกับข้าวกินกับเเตงกวายิ่งอร่อยขึ้น ตอนเเรกผึ้งคิดว่าเป็นปูตำส้มตำ เเต่เเม่บอกว่าไม่ใช่ ปูตำส้มตำจะเค็มเกินไป อันนี้ปูนา เอามาดองในน้ำปลา มันจะไม่เค็มมากเเละตัวเล็ก หลังจากการกินวันนั้นเมนูนี้ก็กลายเป็นเมนูโปรดไปเลย วันนี้ก็เลยต้องซื้อปูดองมาทำเมนูหลนน้ำกะทิปูนาดอง
ส่วนประกอบสำคัญ
- ปูนาดอง 250 กรัม
- น้ำปูนาดอง
- หัวหอมเล็ก 3 หัว
- พริก 4 เม็ด
- หอม ผักชี 1 ต้น
- กะทิตราอัมพวา 100 กรัม
- มะขามเปียก 1 ขีด
- น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า
- น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ
เริ่มจาการซอยหัวหอม 3 หัว แล้วตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป 1 ช้อนโต๊ะ
แล้วพอน้ำมันร้อนก็ใส่หัวหอมลงไปเจียว ค่อยๆ เจียว ใช้ไฟอ่อนๆ
พอหัวหอมเริ่มเหลือง ก็ ใส่น้ำลงไปเล็กน้อย พอน้ำเดือด ก็ใส่ปูนาดอง และใส่น้ำของปูนาดองครึ่งนึงของปูนาดองลงไป (เวลาเราซื้อปูนาดองมา ให้ขอน้ำดองปูนาดองเขามาด้วย ถ้าเขาไม่ให้มา ก็ใส่น้ำปลาลงไปแทนก็ได้ แต่อาจจะมีเค็มกว่า)
และเราก็มาปรุงรสโดยการใส่น้ำตาลลงไป แล้วก็ใส่ก้อนมะขามเปียก ลงไปในกระทะสัก 5- 10 วินาที ลองชิมถ้ามีรสเปรี้ยวหน่อยๆ ก็ตักก้อนมะขามเปียกออกได้ เราไม่ต้องการรสเปรี้ยวมาก แค่ออกเปรี๊ยวนิดๆ พอ (ถ้าปูนาดองไม่เค็ม ก็ให้ใส่น้ำปลาลงไปเพิ่มได้ค่ะ แต่ปู้นาดองของที่ผึ้งซื้อมามีรสเค็มแล้ว เลยจะไม่ใส่น้ำปลาเพิ่มอีก)
พอน้ำเริ่มเดือดอีกครั้ง ก็ใส่น้ำกะทิลงไป ให้ใช้ไฟอ่อน น้ำกะทิจะได้ไม่แตกมัน แล้วก็คนสักพัก ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ตักใส่ชาม โรยหน้าด้วยพริก และหอมผักชี และแต่งสีสันด้วยแครอท นิดหน่อย
เราก็จะได้เมนูหลนน้ำกะทิปูนาดอง ที่ออกรสเค็มหวาน เปรี้ยวนิดๆ และมีความมันจากกะทิกับปูนา ปูนาดองถ้าเราเลือกตัวเล็กมาสามารถกินได้ทั้งตัวเลยคะ แต่ถ้าใครเลือกตัวใหญ่จะกินไม่ได้ทั้งตัว เพราะมันจะแข็งเกินไป ตักปูนาหล่นราดข้าวสวย และกินคู่กับแตงกวาผึ้งว่าเข้ากันที่สุดค่ะ ลองไปทำทานดูนะคะ สำหรับบางคนอาจจะแปลกๆ เหมือนผึ้งตอนแรก แต่กินไปกินมาอาจจะกลายเป็นเมนูโปรดเหมือนอย่างผึ้งก็ได้ค่ะ
พอหัวหอมเริ่มเหลือง ก็ ใส่น้ำลงไปเล็กน้อย พอน้ำเดือด ก็ใส่ปูนาดอง และใส่น้ำของปูนาดองครึ่งนึงของปูนาดองลงไป (เวลาเราซื้อปูนาดองมา ให้ขอน้ำดองปูนาดองเขามาด้วย ถ้าเขาไม่ให้มา ก็ใส่น้ำปลาลงไปแทนก็ได้ แต่อาจจะมีเค็มกว่า)
และเราก็มาปรุงรสโดยการใส่น้ำตาลลงไป แล้วก็ใส่ก้อนมะขามเปียก ลงไปในกระทะสัก 5- 10 วินาที ลองชิมถ้ามีรสเปรี้ยวหน่อยๆ ก็ตักก้อนมะขามเปียกออกได้ เราไม่ต้องการรสเปรี้ยวมาก แค่ออกเปรี๊ยวนิดๆ พอ (ถ้าปูนาดองไม่เค็ม ก็ให้ใส่น้ำปลาลงไปเพิ่มได้ค่ะ แต่ปู้นาดองของที่ผึ้งซื้อมามีรสเค็มแล้ว เลยจะไม่ใส่น้ำปลาเพิ่มอีก)
พอน้ำเริ่มเดือดอีกครั้ง ก็ใส่น้ำกะทิลงไป ให้ใช้ไฟอ่อน น้ำกะทิจะได้ไม่แตกมัน แล้วก็คนสักพัก ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ตักใส่ชาม โรยหน้าด้วยพริก และหอมผักชี และแต่งสีสันด้วยแครอท นิดหน่อย
เราก็จะได้เมนูหลนน้ำกะทิปูนาดอง ที่ออกรสเค็มหวาน เปรี้ยวนิดๆ และมีความมันจากกะทิกับปูนา ปูนาดองถ้าเราเลือกตัวเล็กมาสามารถกินได้ทั้งตัวเลยคะ แต่ถ้าใครเลือกตัวใหญ่จะกินไม่ได้ทั้งตัว เพราะมันจะแข็งเกินไป ตักปูนาหล่นราดข้าวสวย และกินคู่กับแตงกวาผึ้งว่าเข้ากันที่สุดค่ะ ลองไปทำทานดูนะคะ สำหรับบางคนอาจจะแปลกๆ เหมือนผึ้งตอนแรก แต่กินไปกินมาอาจจะกลายเป็นเมนูโปรดเหมือนอย่างผึ้งก็ได้ค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น